รดนมต้นโพธิ์
เมื่อวันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม 2559 แรมสิบห้าค่ำเดือนเจ็ด คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนวัดพุทธปัญญา เมืองโพโมน่า รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ร่วมกันรดน้ำนมต้นโพธิ์ กิจกรรมนี้ได้ทำมาหลายปีโดยถือเอาวันประกาศอิสรภาพแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา อันเป็นวันหยุด เป็นวันจัดงานเป็นประจำทุกปี
ความเป็นมาของการจัดกิจกรรมนี้มีว่า เมื่อประมาณสิบปีมาแล้วพอถึงวันหยุดฉลองวันประกาศอิสรภาพของประเทศสหรัฐอเมริกา ประชาชนทั่วไปจะพักผ่อนอยู่กับครอบครัว หรือเดินทางไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ได้รับความสุขสนุกสนาน
แต่มีพุทธศาสนิกชนกลุ่มหนึ่ง นำอาหาร ของหวาน ผลไม้หลากหลายชนิดมารวมกันที่วัดพุทธปัญญา ถวายสังฆทาน แล้วแบ่งกันรับประทาน สนทนาและร่วมกันทำงานบำเพ็ญประโยชน์อย่างสนุกสนาน เป็นอย่างนี้มาระยะหนึ่ง การทำกิจกรรมนี้เป็นไปตามธรรมชาติโดยมิได้วางแผนหรือนัดหมายกันอย่างเป็นระบบแต่อย่างใด แต่ทำกันด้วยน้ำใจแบบพี่น้องที่สนิสนมกัน
ขณะนั้นกำลังก่อสร้างที่จอดรถ รั้วและปลูกต้นไม้ตามที่ทางเทศบาลเมืองโพโมน่าแนะนำมาเพื่อยกระดับจากที่พักอาศัยเป็นศาสนสถานตามข้อบังคับของเมืองที่อยู่อาศัยที่เรียกว่า Condition use permit. มีต้นโพธิ์เล็กๆซึ่งดร.พระมหาบาง เขมานันโท นำมาจากพุทธคยา ประเทศอินเดีย ที่ย้ายเก็บไว้ในกระถางเตรียมปลูกอย่างเป็นที่เป็นทางตามที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต เมื่องานก่อสร้างอื่นสำเร็จและได้รับอนุญาตให้ใช้สอยเรียบร้อยแล้ว จึงนัดหมายวันปลูกต้นโพธิ์ขึ้นในวันที่ 4 กรกฎาคม อันตรงกับวันประกาศอิสรภาพของประเทศสหรัฐอเมริกาพอดีเพื่อให้พี่น้องที่เคยมาวัดได้ร่วมกันปลูก
เคยอ่านวรรณกรรมบาลี มีเรื่องสั้นๆที่เคยผ่านตาแล้วประทับใจมากเรื่องหนึ่งคือเรื่องของพระเจ้าอโศกมหาราชทรงเปลี่ยนชีวิตจากจักรพรรดินิยมที่ล่าเมืองขึ้นมาเป็นนักเผยแผ่พุทธธรรมผู้ยิ่งใหญ่ด้วยการฟังบทธรรมของสามเณรน้อยที่เดินบิณฑบาตผ่านมหาราชวังด้วยการแสดงเพียงสั้นๆว่า ความประมาทเป็นทางแห่งความตาย ความไม่ประมาท เป็นทางไม่ตาย ผู้ที่ประมาทแล้วเหมือนคนที่ตายแล้ว
จากนั้นเป็นต้นมาพระเจ้าอโศกมหาราชทรงอุทิศพระองค์เพื่อศึกษา ปฏิบัติและเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างจริงจังจนบ้านเมืองสงบร่มเย็นเป็นรัฐที่รุ่งเรืองด้วยธรรม ทรงเปลี่ยนกองทัพรบเป็นกองทัพธรรม นำธรรมะลงสู่การปฏิบัติตั้งแต่ครอบครัว เพื่อนบ้าน สังคม ประเทศชาติ แม้แต่สัตว์ทั้งหลายก็ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ส่งเสริมให้อาณาประชาราษฎร์ ทำงานด้วยความขยันขันแข็ง ใครขาดเหลือปัจจัยการผลิตหรือเมล็ดหรือพันธุ์พืชบางชนิดกองทัพธรรมต้องจัดหาให้เพื่อให้อาณาประชาราษฏร์ มั่นใจว่า ผู้ประพฤติธรรมย่อมอยู่เป็นสุข ทำความดีย่อมได้รับผลดีสนองตอบ คนขยันหมั่นเพียรต้องได้รับความช่วยเหลือจากรัฐให้สามารถพัฒนาตนได้อย่างเต็มที่
พระเจ้าอโศกเอง ทรงอยู่ในตำแหน่งพระมหาจักรพรรดิ์เพราะปราบเมืองต่างๆน้อยใหญ่ให้อยู่ในอำนาจอย่างราบคาบ เมื่อพระองค์อุทิศพระองค์มาสู่พระพุทธศาสนาแล้ว ได้ศึกษาพุทธธรรมพบว่า พระเจ้าจักรพรรดิ์นอกจากจะดูแลอาณาประชาราษฎร์ให้มีความสุขแล้วยังต้องสมาทานอุโบสถศีลเป็นประจำอีกด้วย
ตามตำนานเล่าไว้ว่า ในวันขึ้นหรือแรมแปดค่ำหรือสิบห้าค่ำ พระเจ้าอโศกจะเสด็จไปทรงอุโบสถศีลใต้ต้นศรีมหาโพธิ์เป็นประจำ อย่างไรก็ตามแม้พระองค์จะอุทิศพระองค์เข้าหาพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง แต่ยังปฏิบัติเพียงฆราวาสธรรมมิใช่ปฏิบัติในระดับนักบวช ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงยังทรงมีพระมเหสีและสนมในวังมากมาย สนมเหล่านั้นต่างมีความหวังว่าตนจะได้มีโอกาสปรนนิบัติพระองค์อย่างใกล้ชิดตามวาระที่เป็นไปตามลำดับ
เหตุการณ์แสนบังเอิญเหตุการณ์หนึ่งก็เกิดขึ้นเนืองๆกับสนมคนหนึ่ง คือเมื่อถึงวาระของเธอ พระเจ้าอโศกมักจะไปสมาทานอุโบสถศีลเป็นประจำช่างบังเอิญเสียนี่กระไร
เธอจึงคิดตรรกะง่ายๆว่า เพราะมีต้นศีมหาโพธิ์ พระเจ้าอโศกจึงต้องไปสมาทานอุโบสถศีลพักค้างเป็นประจำ แต่ถ้าไม่มีต้นศีมหาโพธิ์พระองค์จะคงได้ประทับในพระราชวัง ต่อมาเธอจึงวางแผนอย่างแยบยล จนกระทั่งวันหนึ่งเธอและบริวารจำนวนหนึ่ง ได้นำเอาน้ำร้อนไปรดโคนต้นศรีมหาโพธิ์ จนต้นศรีมหาโพธิ์ค่อยๆเฉาตายไปในที่สุด
เมื่อพระเจ้าอโศกทรงทอดพระเนตรเห็นต้นศรีมหาโพธิ์เฉาตาย ลงเรื่อยๆเช่นนั้นทรงปริวิตกว่า ทำไมหนอต้นศรีมหาโพธิ์ต้องมาตายลงในรัชสมัยของพระองค์ มีความผิดพลาดในข้อปฏิบัติแห่งการปกครองหรือไม่อย่างไร พระองค์ได้ทรงทบทวนพระจริยวัตรของพระองค์อย่างถี่ถ้วน
พระองค์ยังไม่ละความพยายามที่จะถามหาสาเหตุแห่งการตายของต้นศรีมหาโพธิ์ แต่ไม่มีใครจะบอกพระองค์ให้กระจ่างได้
จนกระทั่งวันหนึ่งสนมผู้กระทำการให้ต้นศรีมหาโพธิ์ต้องตาย เห็นพระเจ้าอโศกกระวนกระวายหาความสุขมิได้ จึงเสี่ยงชีวิตเล่าความจริงให้พระองค์ได้ทรงทราบ
ที่ต้องใช้คำว่าเสี่ยงชีวิต เพราะเป็นที่ทราบกันอย่างดีว่า พระเจ้าอโศกดุร้ายฆ่าคนเป็นผักเป็นปลา หากไม่สบอารมณ์ขึ้นมาเมื่อใดฆ่าได้ทันที
เธอได้กราบทูลให้พระองค์ทราบว่า ไม่มีใครที่รักพระองค์จนยอมถวายชีวิตเยี่ยงหม่อมฉันอีกแล้ว หม่อมฉันขอกราบทูลพระองค์ว่า หม่อมฉันเป็นผู้ลงมือราดน้ำร้อนรอบๆโคนต้นศรีมหาโพธิ์นั้นเอง พระองค์จะลงโทษหม่อมฉันอย่างไรก็สุดแล้วแต่จะพิจารณา หม่อมฉันทำไปเพราะรักพระองค์ต้องการให้พระองค์ประทับอยู่ในพระราชวัง ไม่ต้องไปตากลมตากน้ำค้างอยู่ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์
พระเจ้าอโศกทรงสดับดังนั้นแล้ว จึงตรัสว่า ขอบใจที่เธอแสดงความปรารถนาดีต่อฉัน เธอมิต้องรับโทษใดๆเพราะการกระทำนั้นเพราะเธอทำไปด้วยความปรารถนาดี แต่ฉันตั้งใจว่า ตั้งแต่บัดนี้ฉันจะปักหลักพักค้างใต้ต้นศรีมหาโพธิ์จนกว่าหน่ออ่อนแห่งต้นศรีมหาโพธิ์จะขึ้นมา
พระเจ้าอโศกทรงเปลี่ยนแปลงพระองค์เองโดยการเข้าถึงพุทธธรรมจากคนเคยขี้โกรธกลายเป็นคนมีเมตตากรุณา นับเป็นการปฏิวัติพระองค์อย่างยิ่งใหญ่ที่นำความสุขความเบาใจวางใจปลอดภัยมาสู่มวลพสกนิกรของ
พระองค์สิ่งดีงามทั้งหลายเกิดขึ้นแก่พระองค์เองและแว่นแคว้นของพระองค์เพราะธรรมานุภาพโดยแท้ พระองค์ประจักษ์ถึงพระธรรมคุณแน่แท้แล้วจึงทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง
พระเจ้าอโศกเสด็จไปสมาทานอุโบสถศีลและเชิญชวนผู้เชี่ยวชาญด้านพฤกษชาติชนิดต่างๆมาร่วมขุดค้นหาจุดที่ยังสดอยู่ของต้นศรีมหาโพธิ์ ช่วยกันค้นหาอย่างละเอียดทุกกระเบียดนิ้วมิให้หลุดหายไปจนกระทั่งได้พบหน่ออ่อนหน่อหนึ่ง
ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤษศาสตร์ทั้งหลายได้ช่วยกันถวายคำแนะนำว่าจะต้องนำน้ำนมมาบริบาลหน่ออ่อนนี้ให้ค่อยๆเจริญเติบโตตามลำดับแล้วจึงนำปุ๋ยอื่นๆมาใส่ตามระยะเวลาที่เหมาะสมต่อไป
เมื่อหน่อออ่นแห่งต้นศรีมหาโพธิ์ได้รับน้ำนมที่เปี่ยมด้วยสารอาหารที่ต้นไม้อ่อนต้องการไม่นานนักก็เจริญเติบโตแตกหน่ออื่นตามมาอย่างสวยงามนำความปลาบปลื้มปีติปราโมทย์มาสู่พระเจ้าอโศกยิ่งนัก
การกลับฟื้นคืนชีพของต้นศรีมหาโพธิ์นี้ เป็นสัญญาณดีที่บ่งชี้ว่ากิจการแห่งพระพุทธศาสนาในรัชสมัยของพระองค์จะมีความรุ่งเรืองแผ่ขยายกิ่งก้านสาขาไปยังดินแดนต่างๆอย่างไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ
ที่เล่าเรื่องราวมานี้เพื่อแสดงถึงตำนานความสัมพันธ์ระหว่างน้ำนมกับต้นโพธิ์ให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้ทราบจุดเริ่มต้นแห่งตำนานที่นำมาสร้างกิจกรรมขึ้นมาทำร่วมกันเพื่อจะได้ประสานมือประสานงาน และประสานใจถักทอสายใยความสัมพันธ์ของชุมชนให้อยู่ร่วมกันด้วยความสามัคคีมีสุขกันต่อไป
มองในแง่สัญลักษณ์ จะให้ความหมายว่า
โพธิ์ หมายถึงสถาบันศาสนา
น้ำนม คือ ความบริสุทธิ์ กาย วาจา และใจ
การรดน้ำนมแก่ต้นโพธิ์ คือ การนำกายวาจาและใจที่บริสุทธิ์และทรงค่ามาค้ำจุนพระพุทธศาสนา กล่าวคือ ความช่วยเหลือใดๆที่มอบให้พระพุทธศาสนาพึงช่วยด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่มีมลทินใดๆแอบแฝง
หรือตีความสั้นๆ ว่า การเข้าถึงโพธิ คือการตรัสรู้ได้ต้องอาศัยจิตที่ขาวรอบดังโอวาทปฏิโมกข์ที่ว่า สจิตตปริโยทปนัง แปลว่า การชำระจิตให้ขาวรอบ
การเข้าถึงโพธิ คือการเข้าถึงอิสรภาพทางใจจากอำนาจของกิเลส
การจัดงานรดน้ำนมต้นโพธิ์ในวันที่ 4 กรกฎาคม คือวันประกาศอิสรภาพของประเทศสหรัฐอเมริกาจากอำนาจการปกครองของประเทศอังกฤษ
เป็นการเชื่อมโยงอิสรภาพแห่งชาติในเชิงประวัติศาสตร์สู่ความอิสรภาพทางใจในปัจจุบันขณะ
การตั้งใจปฏิบัติธรรมตามที่พระพุทธเจ้าทรงชี้ทางไว้แล้วเพื่อเข้าถึงโพธิเป็นอิสระจากกิเลส คือ การเฝ้ารดต้นโพธิ์ในความหมายทางธรรมขั้นสูง(Absolute Truth)
ขณะที่พุทธศาสนิกชนรดน้ำนมอยู่พระสงฆ์สวดชยันโต จนเสร็จกิจกรรม หมายความว่า เมื่อจิตเข้าถึงโพธิ ย่อมชนะมารทั้งปวง ดั่งที่พระพุทธเจ้าได้เข้าถึงโพธิญาณแล้วทรงชนะกิเลสมารทั้งปวงนั่นแล
ขอขอบคุณพี่น้องครอบครัววัดพุทธปัญญา ที่มาเยือนบ้านของพระพุทธเจ้าอย่างพร้อมเพรียงกันและทำกิจกรรมแบ่งปันความสุขร่วมกันอย่างน่าประทับใจนับเป็นความทรงจำที่ดีงามที่น่าบันทึกไว้ในความรู้สึกได้ระลึกถึงเพื่อเป็นกำลังใจ ขออวยพรให้พี่น้องทุกท่านเข้าถึงโพธิมีชัยชนะเหนืออุปสรรคทั้งปวงจงถึงความสำเร็จในกิจการงานมีความสุขสำราญใต้ร่มโพธิธรรมตลอดไป
วัดพุทธปัญญา เมืองโพโมน่า รัฐแคลิฟอร์เนีย
4 กรกฎาคม 2559 เวลา 19.45 น.